เมื่อวันศุกร์(15 พค)ที่ผ่านมา ทรัมป์และคณะบริหารได้ออกมาประกาศกฎระเบียบใหม่ที่มุ่งสกัดกั้นซัปพลายเออร์ทั่วโลก ไม่ให้ส่งเซมิคอนดักเตอร์แก่หัวเหว่ยบริษัทผลิตอุปกรณ์เทเลคอมรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้เกิดความหวั่นวิตกในการตอบโต้ของจีน และยังตอกย้ำส่วนแบ่งของผู้ผลิตชิปในสหรัฐอีกด้วย
กฎใหม่นี้ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ มีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่15 พค แต่จะมีระยะเวลาผ่อนผัน 120 วันโดยห้ามไม่ให้บริษัทต่างชาติที่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐส่งเซมิคอนดักเตอร์แก่หัวเหว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้บริษัทผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรายนี้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ผลิตในประเทศมากขึ้น
แต่กฎที่ประกาศออกมานั้นส่งผลกระทบอย่างแรงต่อตลาดหุ้นแถบยุโรป และบริษัท TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co Ltd) ผู้รับเหมาผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก และก็เป็นซัปพลายเออร์รายหลักที่ส่งเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่หัวเหว่ย โดยที่บริษัทนี้พึ่งประกาศถึงแผนการที่จะสร้างโรงงานใหม่ขึ้นในสหรัฐฯ
จีนนั้นได้ออกมาโต้ตอบโดยการใส่ชื่อบริษัทสหรัฐฯจำนวนหนึ่งเอาไว้ในรายชื่อหน่วยงานและบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ (unreliable entity list) ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้ต่อการที่วอชิงตันเพิ่มข้อจำกัดใหม่ๆ มาเล่นงานหัวเหว่ย และมาตรการเปิดการสอบสวนและประกาศข้อจำกัดเพื่อควบคุมบริษัทอเมริกันที่ถูกขึ้นบัญชี เช่น Apple Inc, Cisco Systems Inc, และ Qualcomm Inc. ตลอดจนการสั่งระงับการซื้อเครื่องบิน Boeing ของสหรัฐอเมริกา
สรุปคือ ก่อนหน้าที่ทรัมป์และคณะบริหารได้ออกมาประกาศกฎระเบียบใหม่ สหรัฐได้ออกมาประกาศกฎระเบียบห้ามบริษัทในสหรัฐส่งเซมิคอนดักเตอร์แก่หัวเหว่ย ซึ่งเป็นช่องโหว่ทางเทคนิคที่ใหญ่มาก เพราะจีนยังสามารถรับเซมิคอนดักเตอร์จากประเทศอื่นๆได้ ทำให้สหรัฐขาดรายได้จากตรงนี้ จึงได้ออกมาประกาศกฎใหม่ที่ห้ามไม่ให้บริษัทต่างชาติที่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐส่งเซมิคอนดักเตอร์แก่หัวเหว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้จีนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ผลิตในประเทศมากขึ้น และยังส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทอเมริกันที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปพากันร่วงระนาว จีนนั้นก็ได้ออกมาตอบโต้โดยการใส่ชื่อบริษัทจำนวนหนึ่งของสหรัฐฯเอาไว้ใน unreliable entity list รวมถึงเปิดการสอบสวนและประกาศข้อจำกัดกับบริษัทเช่น Apple Inc, Cisco Systems Inc, Qualcomm Inc. และระงับการสั่งซื้อเครื่องบินจากบริษัท Boeing ของสหรัฐอเมริกา
ที่มา: scmp, cnbc, sondhitalk
