อัพเดทใหม่! 5 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ไม่เกิน 10,000 บาท พร้อมบอกข้อดีข้อเสีย
นับตั้งแต่ต้นปี 2022 มีมือถือเปิดตัวใหม่นับไม่ถ้วน แต่วันนี้ทีมงาน Zixzester ขอมาจัดอันดับรุ่นที่น่าซื้อ น่าใช้ งบไม่เกินหมื่นบาท ตั้งแต่ใหม่ล่าสุดจนถึงรุ่นช่วงต้นปี พร้อมแจ้งของดี บอกเล่าข้อเสียหรือจุดสังเกตจากประสบการณ์ใช้งานส่วนตัว รวมถึงรีวิวจากนอก ไปลุยกันเลย

อันดับ 5 – Motorola Moto G82
มือถือจอสวยคมสีแจ่ม ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 3 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา หน้าจอ AMOLED 6.6 นิ้ว จอลื่น 120Hz จากที่ใช้งานมาเวลาหนึ่ง แอบติดใจจอมากๆ ใช้ดูหนัง ภาพสวยสด สีตรงมากๆ ส่วนการเล่นเกม ใช้งานถือว่าทำได้ดี มีบางช่วงที่เครื่องอุ่นๆ นิดหน่อยไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด รุ่นนี้เหมาะกับคนที่อยากได้จอสวย ที่ใช้งานได้คล่อง ครบครันทุกอย่าง และอยากได้ Android เพียวๆ ไปใช้งานลื่นๆ กัน
รายละเอียดสเปกที่สำคัญ
หน้าจอ : ขนาด 6.6 นิ้ว Full HD+ (1080 x 2400) จอ AMOLED, รีเฟรชเรท 120Hz
ชิปเซต : Snapdragon 695 5G (6 nm) Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz + Adreno 619
หน่วยความจำ : 6GB + 12GB เพิ่ม microSD ได้
กล้องหลัง : มีทั้งหมด 3 เลนส์
กล้องหลัก Wide ความละเอียด 50MP f/1.18 ถ่ายวิดีโอ 1080p 60fps
กล้อง Ultra wide ความละเอียด 8MP f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
กล้องหน้า : Wide ความละเอียด 16MP f/.2.2 ถ่ายวิดีโอ 1080p 60fps
ความพิเศษ : มีสแกนลายนิ้วข้างตัวเครื่อง, รองรับการใช้งาน 5G
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W
พอร์ต : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องชาร์จ Type-C
ข้อดีที่น่าใช้
มีหน้าจอใหญ่ที่สวยคมชัด สีสดมาก พร้อมชิปเซตที่ใช้งานทั่วไปคล่อง เล่นเกมปรับกลางๆ กล้องหลักเก็บรายละเอียดีในที่มีแสง สีค่อยข้างตรง ไม่ผิดเพี้ยนเกือบทุกช็อต ที่สำคัญเป็น Android เพียวๆ แท้ๆ ไหลลื่นแน่นอน
ข้อสังเกต
กล้อง Macro ที่ให้มาเปลืองจนแทบจะไม่ได้ใช้ อีกทั้งการชาร์จเร็ว 30W หากมองการใช้งาน 5G มีจอที่ดีแล้ว ชาร์จเร็วตรงนี้อาจจะมองว่าน้อยไป และสุดท้ายคือเรื่องดีไซน์ เพราะยังคงเป็นดีไซน์คล้ายเดิมที่เคยออกแบบมา ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก
ราคาปัจจุบัน
มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทาและสีขาว 6GB + 128GB เพียง 9,999 บาท
ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/9p3BkuBcqf
อันดับ 4 – OnePlus Nord CE 2 Lite 5G
รุ่นนี้ถือว่าเป็นรองท็อปจากรุ่น Nord 2T 5G แต่อัดแน่นสเปกจัดเต็มไม่แพ้กัน จุดเด่นยังอยู่ที่การใช้งานทุกด้านที่ดีเท่ากันหมด ให้ Snapdragon 695 5G ให้จอ 6.59 จอลื่น 120Hz ส่วนกล้องหลักให้มาไม่น้อยหน้าถึง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MP ที่สำคัญแบตอึด มี NFC ให้ด้วย เหมาะกับคนที่อยากได้ระบบลื่นๆ ใช้งานทั่วไปได้ครบถ้วน ทั้งทำงาน และเกม
รายละเอียดสเปคที่สำคัญ
หน้าจอ : ขนาด 6.59 นิ้ว Full HD+ (1080 x 2412) ด้วยจอ IPS LCD, รีเฟรชเรท 120Hz
ชิปเซต : Snapdragon 695 5G (6 nm) Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz + Adreno 619
หน่วยความจำ : 8 + 128GB เพิ่ม microSD ได้
กล้องหลัง : มีทั้งหมด 3 เลนส์
กล้องหลักเลนส์กว้าง ความละเอียด 64MP f/1.7 ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p 30fps
กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
กล้องเลนส์ Depth วัดระยะ 2MP f/2.4
กล้องหน้า : ความละเอียด 16MP f/2.0 เซนเซอร์จาก Sony
ความพิเศษ : มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, รองกับการใช้งาน NFC, รองกับค่าสี sRGB และการแสดงผล P3 สีตรงคมชัด, รองรับ 5G
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
พอร์ต : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องชาร์จ Type-C
ข้อดีที่น่าใช้
หน้าจอใหญ่ มีความคมชัด และสีสดใสถึงแม้จะเป็นจอ LCD แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร
และกล้องความละเอียดสูง 64MP เก็บรายละเอียดี โหมด HDR ที่สวยเด่นมีเอกลักษณ์ มีแบต 5 พันที่จัดการพลังงานได้อึดกว่าหลายรุ่น ท้ายสุดคือ Oxygen OS ที่ลื่นไหล ใช้งานง่าย
ข้อสังเกต
กล้อง Macro ที่ให้มาเปลืองสเปกอีกแล้ว แต่หงุดหงิดเพราะเป็นตั้งแต่รุ่นท็อปยังรุ่นประหยัด และชิปเซตระดับกลางที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่าเล่นเกม
ราคาปัจจุบัน
มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีน้ำเงินฟ้าๆ 8GB + 128GB เพียง 9,990 บาท
ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/3Kpi10Ul7Y
อันดับ 3 – Samsung Galaxy A23 5G
ขอยกให้มือถือแดนกิมจิที่สเปคไม่ได้น้อยหน้ากว่ามือถือจีน โดยรุ่นนี้ทางทีมได้รีวิวไปแล้ว ต้องขอออกตัวว่า รุ่นนี้ไม่ได้ใช้จอ AMOLED ถึงแม้จะผลิตจอเองก็ตาม แต่ก็ให้จอลื่น 120Hz มาแก้ขัด ส่วนการเล่นเกมทำได้ดี เล่นได้เกือบทั้งหมด เฟรมเรทยังวิ่งสูงอยู่ และอีกอย่าง คือกล้องหลังให้มาเยอะดี เพราะให้มาถึง 4 เลนส์ ครบทุกการใช้งาน คมชัดระดับหนึ่ง ใช้ได้ทุกเลนส์ ซึ่งสรุปว่ารุ่นนี้เหมาะกับคนที่ชอบแบรนด์ตลาด เน้นใช้งานทุกอย่างครบ มีแบตอึด ที่สำคัญได้อัปเดตระบบยาวถึง 5 ปีเลย
รายละเอียดสเปกที่สำคัญโดยสรุป
หน้าจอ : ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2408) ด้วยจอ PLS LCD, รีเฟรชเรท 120Hz
ชิปเซต : Snapdragon 695 5G (6 nm) Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz + Adreno 619
หน่วยความจำ : 8 + 128GB เพิ่ม microSD ได้
กล้องหลัง : มีทั้งหมด 4 เลนส์
กล้องหลัก Wide ความละเอียด 50MP f/1.8 ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p 30fps
กล้อง Wide ความละเอียด 5MP f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
กล้องเลนส์ Depth วัดระยะ 2MP f/2.4
กล้องหน้า : ความละเอียด 8MP f/2.0 1080p 30fps
ความพิเศษ : มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, รองกับการใช้งาน NFC
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W
พอร์ต : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องชาร์จ Type-C
ข้อดีที่น่าใช้
มือถือรุ่นใหม่ สิงหาคม 2022 ที่ได้อัปเดตระบบตลอด 5 ปี ไม่ตกรุ่น พร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ ถ่ายสวย สีผิวภาพบุคคลทำได้ดี ให้แบตอึด 5,000 mAh จอใหญ่ 6.6 นิ้ว
ข้อสังเกต
จอใหญ่ก็จริง แต่ให้จอแบบ IPS อาจจะดูกั๊กสเปคไปหน่อย อีกทั้งกล้องหน้าให้ความละเอียดน้อยไป และทีมงานรวมถึงรีวิวต่างประเทศเห็นตรงกันว่า ยังทำไม่ค่อยดี ถ่ายที่มืดก็ดูพอใช้ได้ และสุดท้ายคือให้ชาร์จเร็วมาแค่ 25W ยังคงน้อยไป
ราคาปัจจุบัน
มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีฟ้าอ่อนๆ 8GB + 128GB เพียง 9,999 บาท
ลิงก์สั่งซื้อ : https://shope.ee/3V98DKgqp6
อันดับ 2 – Redmi Note 11 Pro
ตามมาติดๆ ซึ่งเป็นรุ่นดีที่หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว เพราะไม่มี 5G นั่นเอง แต่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนไม่ได้ใช้ แต่มีดีไม่น้อยรุ่น 5G ด้วยมือถือกล้องเทพ 108MP จอสวยสด Super AMOLED ทัชลื่น 120Hz แค่มองจากตรงนี้ก็น่าจะพอเดาออกว่าเหมาะกับใคร ทีมงานได้รีวิวมาแล้ว ขอสรุปว่าเหมาะกับคนที่อยากจ่ายน้อยกว่า แต่ได้ความคุ้มสเปคเท่าเพื่อนๆ มีกล้องใหญ่ ถ่ายคมชัด เก็บครบทุกช็อต ใช้งานทั่วไป เล่นเกม ดูหนัง เรียกได้ว่าไม่มีสะดุดหรือติดขัดแน่นอน
รายละเอียดสเปกที่สำคัญโดยสรุป
หน้าจอ : ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400) ด้วยจอ Super AMOLED สว่างสุด 1200 nits, รีเฟรชเรท 120Hz
ชิปเซต : Mediatek Helio G96 (12 nm) Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.05GHz + Mali-G57 MC2
หน่วยความจำ : 8 + 128GB เพิ่ม microSD ได้
กล้องหลัง : มีทั้งหมด 4 เลนส์
กล้องหลัก Wide ความละเอียด 108MP f/1.9 จากซัมซุง ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p 30fps
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8MP f/2.2 จากโซนี่
กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
กล้องเลนส์ Depth วัดระยะ 2MP f/2.4
กล้องหน้า : ความละเอียด 16MP f/2.5 1080p 30fps
ความพิเศษ : มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง, รองกับการใช้งาน NFC, รองรับ 5G, IR blaster, IP53
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W
พอร์ต : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องชาร์จ Type-C
ข้อดีที่น่าใช้
จอสวยด้วย Super AMOLED 120Hz ทำให้เพลิดเพลินต่อการเล่นเกม อีกทั้งชิปเซต Helio G96 ยังคงเล่นเกมลื่นไหลดี ไม่ได้รู้สึกกระตุกหรือเป็นปัญหาแต่อย่างใด มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทำให้ควบคุมความร้อนได้ดี มีชาร์จเร็ว 67W ในราคานี้แทบไม่มีอีกแล้วในมือถือติดตลาด และท้ายสุดคือกล้องเทพสุด ให้มาถึง 180MP มีความชัดมากอย่างเห็นได้ชัด การเก็บแสงและไดนามิกเรนจ์ทำได้ดี
ข้อสังเกต
ไม่รองรับ 5G จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้เน็ตแรง หรือกังวลเรื่องการเชื่อมต่อใหม่ๆ
ราคาปัจจุบัน
มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ สีขาวและสีฟ้าอ่อนๆ 8GB + 128GB เพียง 8,999 บาท
ลิงก์สั่งซื้อ 5G : https://shope.ee/LC6Rf6avY ลิงก์สั่งซื้อ 4G : https://shope.ee/AJzSLu3N5c
อันดับ 1 – realme Narzo 50 Pro 5G
ถึงแม้ทีมงานจะยังไม่เคยรีวิว แต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าสมควรยกตำแหน่งให้กับรุ่นนี้ ด้วยมือถือระดับกลางสเปคแรง ความเร็วเฉียบขาดกว่าคู่แข็งด้วยชิปเซต Dimensity 920 เร็วถึง 2.5GHz ให้จอสวย Super AMOLED โดยรุ่นนี้ถ้าเทียบจากฝั่งตัวเอง จะแกะแบบมาจาก realme 9 Pro+ แต่ลดสเปคลงนิดหน่อย ได้ความคุ้มราคา แบะสเปคที่เหนือกว่าใครอยู่ โดยรุ่นนี้เหมาะกับคนที่ใช้เล่นเกมมากๆ ด้วยระบบระบายความร้อนและฟีลลิ่งสันที่ดี ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด
รายละเอียดสเปกที่สำคัญโดยสรุป
หน้าจอ : ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400) ด้วยจอ Super AMOLED, รีเฟรชเรท 90Hz
ชิปเซต : Dimensity 920 5G (6 nm) Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.5GHz + Mali-G68 MC4
หน่วยความจำ : 8 + 128GB เพิ่ม microSD ไม่ได้
กล้องหลัง : มีทั้งหมด 3 เลนส์
กล้องหลัก Wide ความละเอียด 48MP f/1.79 จากซัมซุง ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p 30fps
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8MP f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
กล้องหน้า : ความละเอียด 16MP f/2.4 1080p 30fps
ความพิเศษ : มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, รองรับ 5G, ระบบระบายความร้อนของเหลว
แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
พอร์ต : ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องชาร์จ Type-C
ข้อดีที่น่าใช้
จอสวยด้วย Super AMOLED ถึงจะให้มา 90Hz แต่ถือว่ายอมรับได้ และช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย รองรับ 5G ที่สำคัญเครื่องแรงด้วยชิปเซตความเร็ว 2.5GHz เล่นเกมได้ดีสุด ปรับตั้งค่าได้สูงกว่าทุกรุ่น มีระบายความร้อน จึงเหมาะกับสายเกมอย่างแท้จริง
ข้อสังเกต
ไม่สามารถเพิ่ม microSD, มีแอปพลิเคชันสิ้นเปลืองเยอะเกินไป ต้องลบเองตอนได้เครื่องมา
ราคาปัจจุบัน
มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีน้ำเงิน 8GB + 128GB เพียง 9,999 บาท
ดูมาถึงตรงนี้แล้ว ทีมงาน Zixzester หวังว่าทุกคนจะได้รุ่นในใจกันแล้ว สุดท้ายนี้เราให้ข้อสังเกตว่านอกจากสเปกที่ดีแล้ว ลองไปดูงานดีไซน์และรูปแบบของกล้องบนหน้าจอ ว่าเป็นแบบเจาะรู แบบหยดน้ำ เพราะว่าจะมีผลต่อการใช้งานในแต่ละบุคคล และถ้างั้นใครชอบรุ่นไหน ลองคอมเมนต์มาบอกเราหน่อยว่าทำไมถึงชอบรุ่นนี้ ไว้พบกันในครั้งต่อไป บทความนี้ Zixzester ขอจบไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ตามมาอ่านครับ
——————————-
ติดต่อโฆษณาหรือสปอนเซอร์
อีเมล์ : zztproduction.online@gmail.com
——————————-
Source : GSM Arena, Gizbot, Androidauthority
Article By : TheWorWut #zzt